NETFLIX

NETFLIX

NETFLIX หนังเล่าเรื่องราวของชาย 5 คน นำโดยโรมัน หนุ่มน้อยที่กำลังจะสมรสในสัปดาห์หน้า เขาจึงได้เชิญชวนพี่ชาย และพรรคพวกรวมกัน 5 คนเดินทางท่องเที่ยวเพื่องานเลี้ยงสละไม่มีคู่ในป่า ทั้งยัง 5 คนทำกิจกรรมเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นพายเรือล่องแก่ง ปีนเขา แล้วก็เมื่อทำทุกอย่างสาแก่ใจและถึงเวลาเดินทางกลับ

จะมีจุดที่ส่งผลให้เกิดการเบี่ยงเบนของเรื่องอยู่บ้าง ก็คือเรื่องความเกี่ยวข้องของโรมันกับพี่ชาย ซึ่งพี่ชายของเขาได้เก็บความลับการเป็นชู้กับแฟนสาวของน้องชาย ซึ่งเมื่อโรมันมารู้คราวหลังก็ทำให้ทั้งสองคนนี้กำเนิดความแตกหักกัน แต่จุดแตกหักที่ว่านี้ ส่วนตัวของผมแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่ามันกำเนิดความประทับใจอะไรเลย แล้วก็มันก็เกือบจะไม่มีผลต่อเรื่องราวด้วยซ้ำ

การดำเนินเรื่องจัดว่าช้ามาก ขนาดที่ว่าหนังมีความยาวเพียงแต่ 90 นาที แม้กระนั้นก็ยังดูแล้วมีความรู้สึกว่ายาวนานมาก เพิ่มเติมกับการเดินเรื่องที่ออกจะน่ารำคาญ รวมทั้งแทบไม่มีอะไรก้าวหน้าเลยถึงแม้เวลาจะผ่านไปขนาดไหนก็ตาม มันเลยส่งผลให้ยิ่งดูยิ่งอยากนอนเข้าไปใหญ่ ดูไปก็รู้สึกอึดอัดไปว่าเมื่อใดจะจบสักครั้ง

NETFLIX

เริ่มสมัครเป็นสมาชิก แล้วก็มองเว็บหลัก

การสมัครใช้งาน Netflix ไม่มีความแตกต่างกับการสมัครใช้งานบริการดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ตอื่นๆในตลาด จุดที่ต่างคือการจะรับสิทธิ์ดูฟรีเดือนแรกจึงควรผูกบัตรเครดิต หรือ PayPal ด้วย แต่ว่าจะยังไม่ตัดเงินตอนสมัคร แล้วก็สามารถยกเลิกได้ทุกเวลา

สำหรับค่าสำหรับบริการรายเดือนของ NETFLIX จะเริ่มต้นที่ 280 บาท รวมทั้งแพ็คเกจแพงสุด 420 บาท รายละเอียดเดี๋ยวจะมากล่าวต่อกันคราวหน้า

เรื่องการกระทำและก็ความเกี่ยวพันของผู้แสดงนั้นก็ดูแล้วไม่ค่อยจะลงตัว ในตอนแรกดูราวกับว่ามั้ง 5 คนนั้นมีความสนิทสนมกันมากมาย แม้กระนั้นสักพักก็ทำให้เห็นว่าแต่ละคนนั้นมีความไม่ลงลอยบางสิ่ง แล้วหลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปอย่าไม่มีต้นเหตุมาก่อน ไหน จะความประพฤติปฏิบัติของนักแสดง

ที่เพศชายตัวโตๆกับกลายเป็นว่าสู้ผู้หญิงคนนึงไม่ได้ รวมทั้งฉากที่ดูเหมือนกับว่าลุ้นที่สุดของเรื่องก็แค่การแย่งปืนกันระหว่างผู้ชายกับเพศหญิงแค่นั้น นอกเหนือจากนั้นไม่มีอะไรเลย มองไปดูมาบอกเลยว่าช่วงเปิดเรื่องมาจนกระทั่งช่วงเสียงปืนที่ดังขึ้น แล้วก็การเดินมาที่รถกระทั่งถูกยิง นับว่าเป็นจุดที่น่าสนใจที่สุดของหนังแล้ว ต่อจากนั้นอีกมากยิ่งกว่า 1 ชั่วโมงคือหลับรอคอยได้เลย

เนื่องจากเป็นหนังที่มีฉากเป็นป่าลึก เราก็คิดว่าเขาจะเล่นในเชิงเครื่องหมาย แบบการดำตรงลงไปในห้วงลึกดำมิดหมีของจิตใจของทั้งยัง 5 คน เล่นเกี่ยวกับอดีตกาลหรืออะไรก็ตาม ที่มันมีมิติมากกว่าการไล่ยิงกัน แต่เพียงพอจบเรื่องและก็ไม่ได้มีอะไรพวกนี้เลย เปลี่ยนเป็นว่าเรื่องราวมีความแบนราบเรียบอย่างมาก ผิดหวังแบบสุดๆไปเลย

ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังของ netflix ที่ค่อนข้างจะมีความผิดหวังมากที่สุดนับตั้งแต่ดูหนัง Original จากทางค่ายเลยทีเดียว มีจุดที่ให้หักคะแนนเยอะแยะ แต่ว่าอย่างไรก็ดีก็ยังพอจะมีจุดที่ให้คะแนนได้อยู่บ้างก็คือ การนำเสนอความหมายของการเป็นเหยื่อในหนัง ซึ่งผมเองขอให้คะแนนจากจุดนี้คือ 1 คะแนนสำหรับหญิงสาวที่ต้องเสียลูกไป ให้กับชายเมาแอ๋ควงปืน กระทั่งทำให้ลูกของคุณต้องตายจนเธอฟั่นเฟือน อีก 1 คะแนน

ให้กับการที่เพศชาย 5 คนตกเป็นเหยื่อของหญิงสาวบ้าที่ใช้ปืนไรเฟิลไล่ยิงพวกเขา อีก 1 คะแนนให้กับโรมันที่กลายเป็นเหยื่อให้กับความรัก และก็อีก 0.5 คะแนนให้กับทิวทัศน์ทิวภาพและธรรมชาติในป่าของเยอรมนี นอกเหนือจากนี้ไม่มีอะไรถูกใจอีกเหรอ

ตกลงว่า แม้คนไหนกันอ่อนเพลียจากการทำงานแล้วนอนไม่หลับ หากใช้อ่อนล้าจากการเรียนออนไลน์ที่เรียนแล้วไม่รู้เรื่อง ถ้าหากไม่ว่าใครก็ตามที่อยากได้พักผ่อน แนะนำให้เปิด Prey: เหยื่อย รับชม รับประกันว่านี่เป็นยานอนหลับชั้นเลิศอย่างยิ่งจริงๆ

รีวิว “Formula 1: Drive to Survive” สารคดีกีฬา

ขอเกริ่นก่อนเลยว่าสำหรับเราเนี่ยไม่เคยคิดจะสนใจที่จะสมัคร Netflix เพื่อมาดูหนังหรือมองซีปรี่ย์เลยแหละ แต่เนื่องจากว่าปีนี้ (2021) เป็นตอนที่เราออกไปไหนมิได้ เพราะเหตุว่าโควิดแพร่ระบาด เลยทำให้เราต้องหากิจกรรมอื่นๆที่ทำได้ที่บ้าน และก็เพื่อนพ้องก็ชี้แนะให้มองสารคดีชุดนี้นั่นเอง ซึ่งพวกเราก็ชั่งใจอยู่นานเลยว่าจะเสียเงินเสียทองสมัครเพื่อเข้าไปดูดีรึป่าวประกาศ

ขี้เบื่อแบบพวกเราจะคุ้มมั้ย จะมองกระทั่งจบมั้ย แต่ภายหลังที่เราได้ไปดู Trailer ทั้ง 3 ฤดูกาลรวมทั้งน่าสนใจมากมายๆและก็มองรวดเดียวทั้งผอง 3 ฤดูกาลเลย ติดงอมแงมอยู่ยาวนานหลายวันด้วย55555 ซึ่งฤดูกาลที่4 ที่เป็นเรื่องราวการแข่งขันของปี 2021 ก็จะมีออกมาให้ชมเช่นกันทาง F1 คอนเฟิร์มแล้วเป็นระเบียบ! เราเองก็รอคอยชมอยู่ต้องสนุกมากแน่นอนแม้กระนั้นอะภายหลังเกริ่นมาเยอะแยะเลยถ้าอย่างนั้นเข้าเรื่องกันเลยดีมากกว่า

Formula1: Drive to Survive หรือ รถแข่งสูตร 1 แรงแซงชีวิต

เป็นสารคดีชุดที่มีให้รับชมบน Netflix ปัจจุบันนี้มีทั้งหมด 3 ซีซั่น ซึ่งแต่ละซีซั่นมี 10 ตอน ตอนราวๆละ 30-40 นาที ขึ้นรถคดีชุดนี้นำเสนอบรรยากาศ และก็เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเพียงการประลองที่ดุเดือดในสนามสิ่งเดียวเพียงเท่านั้น แม้กระนั้นยังมีเบื้องหน้าเบื้อหลังเบื้องหลังที่ผู้คนจำนวนมากยังไม่รู้เรื่อง ซึ่งทุกสิ่งที่รวมกันมาเป็นสารคดีที่เล่าเรื่องราวทุกอย่างได้อย่างลงตัว

ในส่วนของรายละเอียดที่สารคดีตัวนี้ทำออกมาพวกเรารู้สึกว่าทำออกมาได้ดิบได้ดีมากเลยแหละ เพราะว่าพวกเราที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ F1 มาก่อนก็ยังมองรู้เรื่อง ได้อีกทั้งสาระความรู้ต่างๆอีกทั้งความดราม่า หักเหลี่ยมของเรื่องราว และก็ยังรวมทั้ง สตอปรี่ต่างๆของนักแข่งขัน ความกดดันที่จำเป็นต้องแบกรับ การที่นักแข่งขันจำต้องชิงชัยกันแม้กระทั้งในทีมเดียวกัน

อุปสรรคทางด้านการเงินที่มีผลต่อการลงแข่งขัน ผู้ช่วยเหลือ ปมการบ้านการเมือง การฉกฉวยตำแหน่งของนักแข่งขันที่มีเพียงแต่ 20 ที่นั่งในแต่ละปี แล้วก็แน่ๆว่าความสนุกสนานเข้มข้น ไม่น่าเบื่อ ซึ่งพวกเรารู้สึกว่าถ้าเกิดสามารถพรีเซ็นท์การแข่งขันชิงชัยกีฬาออกมาให้คนขี้เบื่ออย่างพวกเรามองตั้งแต่ต้นจนจบได้ยาวๆขนาดนี้ ก็จัดว่าเก่งมากๆเลยจ้า (ถึงจะมีบางซีนที่ดราม่าจนกระทั่งเกินไป อันนี้ก็จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะ) แม้กระนั้นเอาจริงๆทางซีรีย์เค้าทำดี สนุกเข้มข้นจนข้างหลังพวกเราดูฤดูกาล 3 จบ ก็ทำให้เราต้องการไปดูการแข่งขันในสนามจริงเลยแหละ

Operation Varsity Blues : The College Admissions Scandal

เมื่อการศึกษาระดับสูงเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ที่บิดามารดาเศรษฐี ใช้เงินซื้อ เพื่อลูกเป็นตัวกึ่งกลางได้ เข้าห้องเรียนในมหาวิทยาลัยมีชื่อ[br][br]Operation Varsity Blues: The College Admissions Scandal สารคดี ที่เพิ่งจะเปิดตัวทาง Netflix และก็กำลังเป็นที่เอ่ยถึงทั้งโลกอินเทอร์เนต เรื่องราวการไต่สวนของสำนักงานสืบสาวกลางที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (FBI)

ที่ตีแผ่ช่องโหว่ทางการศึกษาของสหรัฐเมื่อผู้ดูแลที่มีฐานะ มั่งมีใช้เงินเป็นใบเบิกทาง ให้กับลูกๆของพวกเขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อชั้นหนึ่งของอเมริกาในกรุ๊ปไอวีลีกอย่างไม่ชอบธรรม ผ่านทาง “ริค สิงเกอร์” ผู้ที่เรียกตัวเองว่าที่ขอคำแนะนำอิสระทางการศึกษา ซึ่งอยู่เบื้องหลังคดีโจษจันทางการศึกษานี้ ทำให้มีผู้สมคบ รวมทั้งถูกตั้งข้อหากว่า 53 คน รวมเป็นจำนวนเงินสินบนมากกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Operation Varsity Blues: The College Admissions Scandal

เรื่องราว ของสารคดี Operation Varsity Blues: The College Admissions Scandal เปิดตัวมาพร้อม บทพูดของชายคนหนึ่ง กำลังคุยโทรศัพท์กับกลุ่มคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ทั้งปวงกำลังยื่นข้อเสนอรวมทั้งตกลงอะไรกันอะไรบางอย่าง ชวนให้คนดูเดากันเล่นๆว่าพวกเขาเป็นใครกัน ในความเป็นจริงแล้วชายผู้ยื่นข้อเสนอเป็น ริค สิงเกอร์ ผู้ก่อตั้ง Key Worldwide Foundation และ The Edge College & Career Network (หรือที่เรียกว่า “The Key”) ธุรกิจเสนอแนะให้คำปรึกษาทางการศึกษาต่อที่ไปถึงเป้าหมาย เยอะที่สุดใน USA เพื่อช่วยเหลือลูกของครอบครัวเศรษฐี ให้ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง ผ่านช่องทางที่เขาผลิตขึ้นมาเรียกว่า “ประตูข้าง”

ประตูหน้า เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง

ประตูหลัง คือการบริจาคที่ไม่มีการรับประกันว่าจะได้เข้า ชั้นเรียนไหม แล้วก็ประตูข้าง คือการให้ทานซึ่งใช้เงินมากยิ่งกว่า 10 เท่า เพื่อให้มั่นอกมั่นใจได้ว่าลูกๆของพวกเขาจะได้เข้าห้องเรียนในมหาวิทยาลัยโด่งดังอย่างแน่นอน

สารคดีเริ่มเล่าประวัติของสิงเกอร์มากยิ่งขึ้น ผ่านบทสัมภาษณ์เข้ากับบทสนทนาแบบแอบฟังของสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) เขาผันตัวเองจากอดีตกาลโค้ชกลุ่มบาสเกสบอล แต่ว่าถูกไล่ออกด้วยเหตุว่ามีอารมณ์เกรี้ยวกราดรวมทั้งคุมกลุ่มที่มีผลแพ้มากกว่าชนะมาเป็นผู้ฝึกสอนด้านการศึกษา โดยใช้ความรู้สึกกังวลใจของผู้ดูแลที่มีต่อลูกๆของตนจะว่าไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงมาเป็นอุปกรณ์ทางด้านการค้า และก็นั้นก็ทำให้ “การศึกษาระดับสูง” ในมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งกลายมาเป็นสินค้าที่ผู้ปกครองมีบทบาทสมัครให้ลูก โดยใช้เด็กๆเป็นสื่อกลางไปยังมหาวิทยาลัยนั้นๆ

https://www.ap0calypse.com/

My Review

Review Form...

Reviews

Loading Reviews...